Pages

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข้อควรระวังก่อนการซื้อบ้าน

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนซื้อบ้าน

การซื้อบ้าน
การซื้อบ้านเป็นเรื่องสำคัญและมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจ รวมทั้งเรื่องการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ท่านจึงควรพิจารณาไตร่ตรองรายละเอียดข้อมูลอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน

คิดก่อนซื้อบ้าน
ก่อนจะซื้อบ้านสักหลังหนึ่ง ท่านควรคำนึงถึงประเภท และรูปแบบของบ้านที่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของท่าน นอกจากนี้ยังควรคิดไกลไปถึงการวางแผนชีวิตในอนาคตด้วย เช่นการมีบุตร และจำนวนสมาชิกในครอบครัว

มีวิธีง่ายๆจาก Checklist ที่ท่านสามารถใช้ตรวจสอบความพร้อมก่อนซื้อบ้านของท่านเอง ซึ่งจะช่วยให้ท่านประหยัดเวลาและเงินของท่านได้ในระยะยาว ท่านมีกำลังซื้อเท่าไหร่ ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน ท่านควรประเมินกำลังซื้อของตนเองก่อน โดยพิจารณาปัจจัย 3 ประการดังต่อไปนี้ คือเงินออม เงินกู้ยืม และเงินรายได้ที่จะต้องนำมาผ่อนชำระคืนสินเชื่อ ที่ธนาคารกรุงเทพท่านสามารถขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสูงสุดได้ถึงร้อยละ 80 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันสินเชื่อ โดยที่การพิจารณาวงเงินสินเชื่อ ขึ้นอยู่กับรายได้และวัตถุประสงค์ในการซื้อที่อยู่อาศัยของท่าน เช่น ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เพื่อให้เช่า เพื่อการลงทุน บางกรณีท่านอาจต้องเตรียมเงินสำหรับวางมัดจำอย่างต่ำร้อยละ 10 ของราคาซื้อขาย

ต่อรองก่อนตัดสินใจ
การซื้อบ้านต้องใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้น ท่านจึงควรพิจารณารายละเอียดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ การเจรจาต่อรองกับผู้ขายโครงการบ้านจัดสรรก็เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อท่านพบบ้านที่ถูกใจแล้ว ควรพยายามต่อรองราคาซื้อขายก่อน เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านได้ลดราคาหมายถึงค่าใช้จ่ายที่ท่านจะประหยัดได้ บางครั้งผู้ขายก็อาจเตรียมที่จะลดราคาให้จากราคาขายที่ตั้งไว้อยู่แล้ว หากมีคนสนใจที่จะซื้อจริงๆ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ท่านต้องทำ คือตรวจสอบราคาบ้านที่แท้จริงจากราคาตลาด พราะราคาที่เจ้าของโครงการเสนอขายนั้น อาจสูงกว่ามูลค่าจริงของบ้าน และราคาที่ท่านต่อรองได้ก็อาจจะยังสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็น

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อท่านพบบ้านที่ถูกใจและตัดสินใจที่จะซื้อ ท่านควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆอย่างรอบคอบ และควรเตรียมพร้อมในเรื่องของการทำสัญญา โดยสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อตกลงทำสัญญาจะซื้อจะชาย ผู้ขายหรือตัวแทนขายโครงการบ้านจัดสรรมักให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำ (โดยปกติร้อยละ 10) เงินมัดจำจะถือเป็นเงินประกันการซื้อขาย และผู้ขายจะคืนให้ผู้ซื้อเต็มจำนวน เมื่อโครงการบ้านจัดสรรไม่สามารถทำตามข้อตกลงในสัญญาแบบมีเงื่อนไขได้ตามเวลาที่กำหนด และเงินมัดจำก็ถือเป็นการชำระราคาบ้านบางส่วนเมื่อเงื่อนไขที่ตกลงไว้เป็นอันสมบูรณ์ ก่อนทำสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อบ้านควรศึกษารายละเอียดของสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายก่อน

ข้อมูลจาก : ธนาคารกรุงเทพ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น



ShoutMix chat widget